ชื่อสินค้า : Z-Acne PLUS ชุดสิวอักเสบ สิวหัวหนอง
           

ระยะเวลาในการใช้ :  1 ชุด ราคา 750 บาท ( ใช้ได้ประมาณ 2 อาทิตย์ )
                             

คุณสมบัติ

สำหรับผิวที่เป็นสิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวที่มีเม็ดนูนออกมาเป็นสีขาวสุก
สิวอุดตันเล็กน้อย ถ้าเป็นเฉพาะสิวอุดตัน ให้เลือกใช้ชุด Z-Clear จะเหมาะสมมากกว่าค่ะ
ถ้ามีสิวอุดตันอยู่ด้วยและสิวอุดตันกำลังทยอยเป็นสิวอักเสบให้เลือกชุด Z-acne Plus เลยค่ะ

+ ชุด Z-acne Plus จัดมาให้ใช้ได้ครั้งละ 2 อาทิตย์ เพราะฉะนั้นหลายๆท่านอาจจะต้องใช้มากกว่า 1 ชุด ขึ้นอยู่กับจำนวนปริมาณสิวและสภาพผิว ณ ขณะนั้นๆ หากท่านมีสิวอักเสบและอุดตันมากกว่า 13-15 เม็ด ควรใช้ชุดสิวจำนวน 2 ชุดเป็นอย่างน้อยค่ะ เมื่อสิวเริ่มหายแล้วจึงค่อยใช้ตัวบำรุงลดรอยสิว รอยด่างดำเป็นลำดับต่อไป ไม่ควรใช้ตัวลดรอยดำขณะที่สิวยังไม่หาย เพราะอาจทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้  

ในชุดประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาผิวจำนวน 7 ชนิดด้วยกัน ดังต่อไปนี้ :

[แบ่งใช้เช้า เย็น ทาครั้งนึงไม่เยอะค่ะ ใช้ง่าย สิวหายเร็ว]

1.  BP 5%  ขนาด 12 กรัม
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย P. acne ช่วยเรื่องการผลัดลอกเซลล์ผิวหนังด้วย ทำให้สามารถลอกสิ่งอุดตันผิวได้ สามารถรักษาได้ทั้งสิวอักเสบและไม่อักเสบ ทาก่อนล้างหน้า ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วค่อยล้างหน้า หากผิวหน้าอ่อนบาง ให้ทิ้งไว้เพียง 3 นาทีก่อนในช่วงแรก แล้วค่อยๆเพิ่มเวลา

2.  BHA Soft Soap เจลใส ไร้สิว  ขนาด 40ml.
+ ช่วยควบคุมความมันทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก
+ สารสกัดจาก tea tree oil จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
+ ลดการอักเสบ ทำให้หัวสิวแห้งและยุบตัว

3.  Skin Repair ครีมปรับสภาพผิว ขนาด 10 g.
+ ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน
+ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ การระคายเคือง
+ ลดการอักเสบของผิวหน้าที่บวมแดง หรือเป็นเม็ดผื่น อาการหลุดลอกของผิวหน้า
+ เมื่อใช้ติดต่อกัน ยังช่วยปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำให้ขาวนวลเนียนผุดผ่อง

**ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ เพื่อป้องกันอาการแพ้ ฉะนั้นจะไม่มีกลิ่นค่ะ **

4.  Crystal Clear Solution ขนาด 10ml.
    ฆ่าเชื้อสิว เชื้อแบคทีเรีย ทำให้สิวแห้งเร็ว ยุบไว
    * ทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น *

5.   Zcret Super Aloe gel เจลว่านหางจระเข้สูตรพิเศษ ขนาด 15 g.
+ ช่วยลดการระคายเคืองของผิว ลดเม็ดผดผื่น
+ ลดการอับเสบของผิว สมานผิวให้เรียบเนียน
+ ลดจุดด่างดำ รอยแดง รอยช้ำ

6.   Zcret Bio Acne Killer ขนาด 7 g.

      ช่วยลดการเกิดรอยสิวได้ดีมากค่ะ เราเริ่มทาตั้งแต่ยังเป็นสิวและทาต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนสิวยุบสักระยะ จะพบว่ารอยดำแทบจะไม่เกิดหรือถ้ามีก็จางมากๆค่ะ หลังจากนั้นรักษารอยต่อไป ไม่นานก็หาย เหมือนไม่เคยเป็นสิวมาก่อนเลยค่ะ

7.  Zcret UV White Soft Sunscreen ขนาด 7 g.

+ ปกป้องผิวจากแดด รังสี UVA/UVB
+ สูตรอ่อนโยน ใช้ได้แม้ผิวที่บอบบางหรือผิวที่เป็นสิว
+ มีส่วนผสมของครีมบำรุงอย่าง Evening Primrose oil,Kiwi Extract
   และสารสกัดจากดอกไม้ ช่วยบำรุงผิวและสมานผิว

 
============================================

วิธีใช้ ชุด Z-Acne PLUS ให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ

จะแนบไปพร้อมกันกับสินค้าเท่านั้นค่ะ แปะไว้หน้ากระจกแล้วทาตามเลยจ้า

- ระหว่างที่ใช้ชุดสิว ควรงดครีมบำรุงที่ใช้อยู่ทุกชนิด
งด ครีมรองพื้น แป้งผสมรองพื้นทุกประเภท ถ้าท่านสามารถงดได้ สิวจะหายเร็วขึ้นมาก เปลี่ยนเป็นใช้ Pressed Powder แป้งไม่ผสมรองพื้นแทนก่อนค่ะ

- ห้ามแกะสิว และห้ามบีบสิวเด็ดขาด หรือลอกขุยผิวทั้งสิ้น พยายามอย่าจับหน้าระหว่างวัน

- กรุณาใช้กันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง และ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด

- ลดการรบกวนต่อผิวหน้าให้น้อยที่สุด (Mechanical Irritation) เช่น การนวดหน้า, การขัดหน้า, หรือเช็ดถูหน้าบ่อย ๆ

- ควรล้างหน้าให้สะอาด, ยังไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้า และควรล้างหน้าไม่เกิน 2-3 ครั้งต่อวัน

- สิว ไม่ได้เกิดจากผิวมัน แต่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่บุท่อรูขุมขนที่หลุดออกตามธรรมชาติ ไม่ถูกขจัดสู่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการตกค้าง เมื่อรวมกับไขมันที่ต่อมไขมันสร้างขึ้น จะก่อให้เกิดสิวอุดตัน ฉะนั้น ผิวมันเป็นอาการ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว

- หากมีปัญหาในการใช้ควรปรึกษาที่ร้านทันที

============================================

-- คำแนะนำเพิ่มเติม --

1. หลายท่าน ** ทึกทักไปว่าตนเป็นสิวประเภทนั้นประเภทนี้
แท้จริงแล้วอาการนั้นอาจจะไม่ใช่สิวเลยก็ได้ ** ซึ่งถ้าเป็นมาก และเรื้อรังมานาน ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเป็นหนทางที่ดีที่สุด

2. งดเว้นการใช้เครื่องบำรุงผิว ครีมทุกอย่าง เมื่ออยู่ในขั้นตอนการรักษาชุดนี้  เพราะส่วนผสมในครีมบำรุงผิวมีน้ำมัน อันจะทำให้สิวอักเสบ/สิวอุดตันเพิ่มมากขึ้น หรือทำให้อาการสิวเห่อขึ้นมา

3. ระยะเวลาการเห็นผล : ประมาณ 2-3 อาทิตย์ขึ้นไป
   เนื่องจากในชุดนี้มีเพียงแค่ยาทาผิวหนัง ไม่มียาแก้อักเสบรับประทานร่วมด้วย
   ฉะนั้น หากเป็นสิวอักเสบไม่มาก ควรใช้ต่อเนื่อง 2 ชุดเป็นอย่างต่ำ เพื่อผลที่ต่อเนื่อง
   หรือเลือกใช้เฉพาะบางตัวเท่านั้น หากเป็นสิวมาก อาจต้องใช้เวลารักษา 1-2 เดือน
   หรือแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากจะมีตัวยาที่หลากหลายกว่า
   และเหมาะกับผิวมากกว่าค่ะ

4. สิว เป็นเรื่องของฮอร์โมนด้วย ถ้าท่านยังอยู่ในวัยที่เป็นสิวได้  ช่วงวัยรุ่น 

    สิวจะเกิดขึ้นอีกได้ เรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ท่านไม่สามารถห้ามได้ หรือแม้แต่ในท่านที่
    ฮอร์โมนผิดปกติ คือ มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ทำให้มีขนขึ้นเยอะ หน้ามันมาก
    สิวขึ้นมาก และบ่อย จะต้องทานยาปรับฮอร์โมนควบคู่ เพื่อลดอาการหน้ามันหรือสิว 

------------------------------------------------------------------

ปัญหาเรื่องสิวเป็นปัญหาที่พบบ่อย และสร้างปัญหาให้กับวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่  ทั้งในแง่ความมั่นในตัวเอง ไม่อยากเข้าสังคม ซึมเศร้า ร่วมไปถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายกับการไปรักษา ซึ่งก็เป็นๆหายๆ เรื้อรังไม่จบง่ายๆ 

 -  การอุดตันของของโพรงขน เป็นเหตุให้ ไม่สามารถ ระบายน้ำมันจากต่อมไขมันได้เพียงพอ เกิดการตีบตัน หรืออุดตันกลายเป็น comedones

-   หากมีการลงไปของเชื้อ bacteria โดยเฉพาะ Propionibacterium acnes

-  จะทำให้เกิดมีอาการอักเสบบวมแดงขึ้น กลายเป็นสิวอักเสบและเป็นต้นตอของรอยแดง รอยดำ แผลเป็นสิวตามมา เป็นที่มาของปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็นสิว ขรุระบนหน้าติดตัวได้
 
การรักษาสิวในปัจจุบันได้มุ่งเน้น ที่จะรักษาสิวอุดตัน และการอักเสบที่อยู่บนในหน้า  โดยใช้ ยาทา ยากิน มีการกดสิว ฉีดสิวด้วย Steroid เพื่อให้สิว ที่มีอยู่หายเร็ว หากแต่ละเลยที่จะคำนึง สิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันเกิดจากจากที่คนไข้ ไม่ทราบว่า พฤติกรรมใดของตัวเอง ที่เป็นต้นตอของปัญหาที่แท้จริง ทำให้มีสิวเม็ดใหม่ๆขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ทำให้รักษาไม่จบสิ้นเพราะมีต่อมไขมัน อีกนับหมื่นบนใบหน้าที่พร้อมจะเป็นสิวในอนาคต หากไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง  ดังนั้นหากเราจะรักษาสิวกันอย่างจริงจังแล้ว สิ่งที่ละเลยไม่ได้ที่จะต้องสอนให้คนไข้ได้รู้ว่าจะต้องปฎิบัติตัวอย่างไร จึงจะไม่เกิดสิวเม็ดใหม่ๆ ขึ้นมาอีกในอนาคต หลักปฎิบัติขั้นต้น 3 ประการที่จะแก้ปัญหาเรื่องสิวไม่ให้เกินขึ้นมาใหม่อีกมีดังนี้

1.    การล้างหน้า  การล้างสิ่งสกปรกและทำให้เกิดการอุดตันกับรูขุมขนออกไปจากหน้าของเราย่อม เป็นการลดการเกิดสิว แต่การล้างที่แรงเกินไป หรือการล้างไม่ถูกวิธีกลับจะทำให้มีการอุดตันเพิ่มมากขึ้น หน้าของเราไม่ใช่วัสดุผิวเรียบที่จะสามารถใช้วิธีถูกไถยังไงก็ได้เพื่อให้ สิ่งสกปรกออกไป หากแต่หน้าของเรามีรูขน และมีเส้นขนอยู่  การล้างหน้าที่ถูกวิธีนั้น ต้องล้างเพื่อให้สิ่งสกปรก ออกจากรูขุมขน คือเราต้องลูบไปตามแนวขน ไม่ลูบย้อนหรือ หมุนวนซึ่งจะทำให้สิ่งสกปรกกลับเข้าไปติดในรู

2.    เรื่องของอาหาร  การศึกษาในช่วง 4-5 ปีก่อน ได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยเรื่องของปัจจัยทางพันธุ์กรรมและฮอโมน มากกว่า โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับในเรื่องอาหารและการปฎิบัติตัว แต่มีการศึกษาใน ฝาแฝด ที่ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ปัจจัยด้านพันธุกรรม มีผลต่อปริมาณการเพิ่มของการหลังไขมัน แต่การจะเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมานั้นเป็นเพราะปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมมากกว่า  ข้อมูลการศึกษา Meta analysis ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอาหารกับการเกิดสิว ซึ่งอิทธิพลจากอาหารมักจะทำให้เกิดสิวบริเวณรอบปากรอบคาง  โดยเฉพาะ อาหารที่มาจากผลิตพันธ์นม เช่น นมวัว เน้ย ชีส และอาหารที่มีปริมาณ Glycine ปริมาณสูง เช่น ธัญพีช ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด มันบด แตงโม กล้วย ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าการงดอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดสิวลดลงได้ นอกจากนั้นแล้ว วิตามินปี ในปริมาณสูงมากๆ โดยเฉพาะ Pyridoxine(B6) และ Cyanocobalamin (B12) พบว่าสามารถเป็นตัวทำให้เกิดสิวได้ แต่เป็นที่สังเกตุได้ว่าในคนที่ไม่ได้เป็นสิวแล้วการรับประทานอาหารเหล่านี้ ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดผลเสียอะไร ทำให้มองได้ไว้ เรื่องอาหารเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดสิว เฉพาะบุคคล คำแนะให้งดเว้นอาหารเหล่านี้จึงให้เว้นเฉพาะคนที่เป็นสิวหรือกำลังรักษา สิวอยู่เท่านั้น

3.    การพักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนน้อย นอนดึก อดนอน นอนไม่พอ ก็เป็นสาเหตุให้ เกิดสิวโดยเฉพาะ สิวบริเวณ หว่างคิ้ว และหนาผาก ดังจะเป็นได้ชัดเจนว่าสิวมักจะเป็นเพิ่มขึ้นในช่วงที่เราจะต้องมีการสอบ  ซึ่งหากได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ก็จะทำให้สิวบริเวณดังกล่าวดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรอดนอน นอนดึก ด้วยเห็นผลที่ไม่จำเป็นซึ่งจะทำให้สิวไม่หาย และรักษายากมากขึ้น

      กล่าวโดยสรุปในบรรไดขั้นแรกของการรักษาสิวนั้น หาใช่การ หาหมอ ทายา กินยาไม่ แต่หากเป็นการที่ต้องรู้จักการล้างหน้าที่ถูกวิธี งดกินอาหารที่จะทำให้เกิดสิวมากขึ้น และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งหากขาดความเข้าใจในการปฎิบัติตัวเบื่องต้นเหล่านี้แล้ว ถึงแม้จะรักษาสิวไปเท่าไหร่ ก็จะมีสิวเม็ดใหม่ๆ เกิดขึ้นมาให้ปวดหัวกันอยู่เรื่อยไป

อ้างอิงบทความ : ดร.นพ. สาโรช สุวรรณสุทธิ

----------------------------------------------------------------- 

สิวบริเวณคางที่มักขึ้นอยู่เป็นประจำ 90% สาเหตุมาจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนช่วงประจำเดือน ความเครียด พักผ่อนไม่พอล้วนมีส่วน ส่วนของคางเป็นส่วนที่บอบบางของผิวหนัง ซึ่งสิวชอบขึ้นบ่อย โดยเฉพาะในสุภาพสตรีช่วงที่มีประจำเดือน ส่วนสาเหตุที่มาของสิวที่คางหรือสิวขึ้นที่คางในสุภาพสตรีจะมาจากการเปลี่ยน แปลงของฮอร์โมนเพศ ซึ่งจะเป็นๆหายๆซ้ำบริเวณรอยเดิม สิวที่เห่อที่คางเหล่านี้ มีทั้งประเภทอักเสบ สิวหนอง หรือเป็นผื่นขึ้นตามบริเวณริมคาง นอกจากสาเหตุมาจากฮอร์โมนแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากผิวหนังสกปรก การใช้สารเคมีที่เป็นเครื่องสำอาง นอกจากนี้อาจจะมีสาเหตุจากการใช้ลิปสติกที่มีลักษณะแวววาว ลิปกลอส เพราะมันมี Pretolium wax เป็นส่วนประกอบ

หรือสามารถเกิดได้จากยาสีฟันที่ผสมฟลูออรไรด์ ลองเปลี่ยนสีฟันที่ท่านใช้อยู่เป็นประจำ
หรือไม่ก็ไม่ควรให้ฟองของยาสีฟันมาคาค้างที่บริเวณคางหรือรอบๆปากควรรีบล้างออก แล้วอาจจะเกิดได้จากหลายๆสาเหตุเช่น ปลอกหมอน โทรศัพท์

------------------------------------------------------------------

คำบอกเล่าจากผู้ใช้จริงบางส่วนค่ะ :
อย่าลืมนะคะว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกผิว 100% ค่ะ มีทั้งผู้ใช้ดีและใช้แล้วเห็นผลน้อยก็มีค่ะ